เที่ยวชมซากุระที่ถนนสายนักปราชญ์

ทางเดินชมซากุระอันงดงามเรียบขนานคลองเก่าในเมืองเกียวโต

ในขณะที่เดือนเมษายนอากาศของเมืองไทยกำลังเข้าสู่ฤดูกาลที่ร้อนที่สุดของปี แต่ในประเทศญี่ปุ่นเดือนนี้กำลังเป็นช่วงเวลาที่เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ และมีเทศกาลโด่งดังที่คนทั่วโลกต่างเดินทางมาชมความงามของดอกซากุระที่กำลังผลิดอกบานสะพรั่งนั้นคือ“เทศกาลฮานามิ (Hanami)” หรือเทศกาลชมดอกไม้ (ฮานะ = ดอกไม้, มิ = ดู ชม) นั่นเอง ซึ่งเทศกาลนี้มีต้นกำเนิดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะและได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่สวยที่สุดของเมืองเกียวโตก็ต้องยกให้กับ “ถนนสายนักปราชญ์” (哲学の道、てつがくのみち Tetsugaku no michi) แห่งนี้

ถนนเส้นนี้เป็นทางเดินเล็กๆ เลียบคลองบิวาโกะ (Biwako) ที่ใสสะอาด โดยมีจุดเริ่มต้นจากบริเวณหน้าวัดกินคะคุจิ (Ginkakuji) หรือที่คนไทยรู้จักกันในนาม “วิหารพลับพลาเงิน” ไปจนสุดทางที่วัดนันเซ็นจิ(Nanzenji) รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งที่มาของชื่อ “ถนนสายนักปราชญ์” นี้ได้มาจากในอดีตนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงในช่วงศตวรรษที่ 20 ชื่อ Nishida Kitaro มักจะมาเดินทำสมาธิที่ถนนแห่งนี้ทุกๆวันระหว่างที่ทำงานวิจัยอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกียวโต

แน่นอนว่าช่วงกลางเดือนเมษายนที่ถนนเส้นนี้จะได้รับความนิยมจากผู้คนจำนวนมากที่ต่างพากันมาเดินเล่นชมซากุระที่ออกดอกสะพรั่งเต็มต้นตลอดสองข้างทาง เมื่อซากุระบานเต็มที่แล้วถนนเส้นนี้ก็จะกลายเป็นสีชมพูหวานแหวว ทำให้ได้บรรยากาศอันสุดแสนจะความโรแมนติกท่ามกลางธรรมชาติริมคูคลองที่ในหนึ่งปีจะหาชมได้พียงครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นปริมาณผู้คนในช่วงเวลานี้อาจจะแน่นขนัดจนหามุมถ่ายรูปซากุระสวยๆ (ไม่ติดคน) ยากอยู่สักหน่อย แนะนำว่าควรมาเดินตอนเย็นๆช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตก ผู้คนจะบางตาลง ทำให้สามารถเดินได้สะดวก ไม่เบียดเสียด และหามุมถ่ายรูปสวยๆตามใจชอบได้มากกว่า (แต่อย่าเย็นจนเกินไปนะคะ เดี๋ยวแสงหมดแล้วภาพไม่สวย)

บริเวณต้นทางจะมีตุ๊กตาหมีน่ารักสองตัวนั่งตกปลาเคียงข้างกัน ทางฝั่งตรงข้ามก็มีร้านขายของเล็กๆอยู่บ้างประปรายไม่มากนัก โดยแต่ละร้านจะตกแต่งร้านของตนให้กลมกลืนไปกับบรรยากาศแวดล้อม ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านถนนเส้นนี้สัมผัสได้ถึงทัศนียภาพความเป็นญี่ปุ่นโบราณขนานแท้

ขอย้อนกลับไปถึงความสำคัญของดอกซากุระกันสักนิด สำหรับคนญี่ปุ่นนั้นมองว่าซากุระมิใช่เป็นเพียงดอกไม้ที่มีความสวยงามและบ่งบอกถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิเพียงเท่านั้น แต่ยังแฝงไปด้วยปรัชญาที่ว่าด้วย “ความงามที่ไม่ยั่งยืน” เพราะซากุระจะออกดอกเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น จากนั้นก็ร่วงโรยไปตามกาลเวลา เป็นบทเรียนที่สอนให้เรารู้ว่าทุกสรรพสิ่งบนโลกล้วนอนิจจัง รวมถึงชีวิตของมนุษย์ที่ไม่มีใครสามารถหลีกเลี่ยงความตายไปได้ ทุกอย่างย่อมแปรผันไปตามกาลเวลา ดังนั้นซากุระจึงไม่ได้เป็นเพียงความงามจากธรรมชาติสรรสร้างเท่านั้นแต่เป็นบทเรียนสอนใจให้มนุษย์ทุกคนใช้ชีวิตอยู่บนหนทางแห่งความไม่ประมาทอีกด้วย

ใครที่อยากมาเยือนถนนสายนักปราชญ์แห่งนี้ สามารถนั่งรถเมล์จากสถานีเกียวโต สาย 100 ใช้เวลา 33 นาที ลงที่ป้าย Ginkakuji-mae เดินอีก 5 นาทีก็ถึงวัดกินคะคุจิอันเป็นจุดเริ่มต้นของถนนสายนี้ ถ้ามาที่นี่แล้วคุณจะได้เพลิดเพลินกับความงามของซากุระและได้เรียนรู้บทเรียนจากธรรมชาติไว้เตือนใจตัวเองในการใช้ชีวิตไปพร้อมๆกัน

0
0
Apakah artikel ini bermanfaat?
Help us improve the site
Give Feedback

Tinggalkan komentar

Thank you for your support!

Your feedback has been sent.